สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “สภาวิชาชีพบัญชี” ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สภาวิชาชีพบัญชีได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งแจ้งวิธีที่เราจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” คือ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
สภาวิชาชีพบัญชีมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจัดเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของสภาวิชาชีพบัญชี จึงต้องแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมก่อนเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อประโยชน์ต่อการใช้งานของท่าน โดยสภาวิชาชีพบัญชีจะเก็บรักษาข้อมูลเหล่านั้นไว้เป็นความลับ การเก็บข้อมูลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากท่านโดยตรง สภาวิชาชีพบัญชีจะแจ้งการจัดเก็บให้ท่านทราบไม่เกิน 30 วัน นับจากการจัดเก็บ ท่านสามารถเลือกว่าจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่สภาวิชาชีพบัญชีหรือไม่ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่สภาวิชาชีพบัญชี อาจมีบางบริการที่สภาวิชาชีพบัญชีไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้หากปราศจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูล เกี่ยวกับ เชื้อชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนา ปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม จะอยู่ภายใต้ความยินยอมของท่านก่อนเท่านั้น (เว้นแต่สภาวิชาชีพบัญชีจะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อการคุ้มครองแรงงาน ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือตามที่กฎหมายกำหนด) -
ข้อมูลที่สภาวิชาชีพบัญชีเก็บรวบรวม
สภาวิชาชีพบัญชี อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านหลายช่องทาง เช่น- เมื่อท่านลงทะเบียนจองหลักสูตรอบรมสัมมนาผ่านทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรือช่องทางใดๆ สภาวิชาชีพบัญชีขอทราบข้อมูลดังต่อไปนี้ ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์อีเมล ตำแหน่งงาน รูปถ่าย ฯลฯ
- สำหรับผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาต สภาวิชาชีพบัญชีอาจขอข้อมูลของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน
- เมื่อท่านชำระค่าสัมมนา สภาวิชาชีพบัญชีอาจขอข้อมูลทางบัญชี เช่น รายละเอียดการชำระเงิน
- เมื่อท่านติดต่อสอบถามข้อมูล สภาวิชาชีพบัญชีอาจขอข้อมูลเกี่ยวกับท่าน เช่น ชื่อ สกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์
- แบบสอบถามความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนา
- การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดอบรมสัมมนา
- สภาวิชาชีพบัญชีอาจจัดเก็บบันทึกข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์ (Log Files) ของท่าน โดยจะจัดเก็บข้อมูลดังนี้ หมายเลขไอพี (IP Address) หรือ เวลาการเข้าใช้งาน เป็นต้น
- ในกรณีที่ท่านลงทะเบียนอบรมสัมมนาในนามนิติบุคคล หรือเมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่สภาวิชาชีพบัญชี ท่านรับรองและยืนยันว่าได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแล้ว ในการเก็บ ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
- คุกกี้ เว็บไซต์ของสภาวิชาชีพบัญชี อาจใช้คุกกี้ในบางกรณี คุกกี้ คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จัดเก็บข้อมูลซึ่งแลกเปลี่ยนระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและเว็บไซต์ของเรา สภาวิชาชีพบัญชีใช้คุกกี้เฉพาะเพื่อการจัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่านในครั้งถัดไปที่ท่านกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของสภาวิชาชีพบัญชี เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บบราวเซอร์ ท่านสามารถตั้งค่าเพื่อยอมรับคุกกี้ทั้งหมดหรือปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือแจ้งเตือนให้ท่านทราบเมื่อมีการส่งคุกกี้ โดยท่านสามารถเข้าไปตั้งค่าที่เมนู “ความช่วยเหลือ” ในบราวเซอร์ของท่านเพื่อเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแปลงการใช้คุกกี้ของท่านได้ โปรดทราบว่าการปิดการใช้งานคุกกี้อาจส่งผลต่อการใช้งานบางบริการของท่านได้
- ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
สภาวิชาชีพบัญชีจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ตลอดระยะเวลา ตราบเท่าที่ผู้ใช้บริการยังคงเป็นผู้ใช้บริการของสภาวิชาชีพบัญชีอยู่ และสภาวิชาชีพบัญชีสงวนสิทธิเก็บข้อมูลไว้อีกเป็นระยะเวลา 3 ปีหลังจากผู้ใช้บริการยกเลิกการใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และต่อสู้สิทธิต่าง ๆ ของสภาวิชาชีพบัญชีเว้นแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้สภาวิชาชีพบัญชีจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาอื่น สภาวิชาชีพบัญชีอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่าที่ระบุ - วัตถุประสงค์การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
สภาวิชาชีพบัญชี จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ท่านได้ให้มา เพื่อดำเนินการตามความประสงค์ ในการให้บริการตามธุรกรรมที่ตกลงระหว่างท่านกับสภาวิชาชีพบัญชี โดยทางสภาวิชาชีพบัญชีเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้- เพื่อลงทะเบียนจองหลักสูตรอบรมสัมมนาให้แก่ท่าน
- เพื่อออกหนังสือรับรองการเก็บชั่วโมงผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
- เพื่อออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน ในการอบรมสัมมนาให้แก่ท่าน
- เพื่อให้บริการหรือตอบคำถามตามที่ท่านร้องขอ
- ใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงสถิติ ทำวิจัย เพื่อวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ กิจกรรมที่หลากหลายและยกระดับความพึงพอใจ
- เพื่อให้ข้อมูล รายการอัพเดตเกี่ยวกับบริการ หรือส่งคำเชิญในการเข้าร่วมอบรมสัมมนา หรือประชุมของสภาวิชาชีพบัญชี ผ่านทางอีเมล จดหมายทางไปรษณีย์ ไลน์ เฟสบุ๊ค ข้อความ หรือทางโทรศัพท์ (โดยท่านสามารถยกเลิกการรับข่าวสารดังกล่าวได้ เพียงคลิกลิงค์หยุดรับข่าวสาร หรือแจ้งความประสงค์ผ่านทางอีเมลของสภาวิชาชีพบัญชี)
- เพื่อรวบรวมข้อมูลเป็นฐานข้อมูลผู้เข้าอบรมสัมมนาของสภาวิชาชีพบัญชี หรือข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
- ใช้เพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการอบรมสัมมนาหรือการทดสอบของสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อประเมินผลและปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- เพื่อให้ข้อมูลด้านการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ กิจกรรม ข่าวสารโปรโมชั่นต่าง ๆ หรือส่งคำเชิญในการเข้าร่วมอบรมสัมมนาหรือทดสอบ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล จดหมายทางไปรษณีย์ ไลน์ เฟสบุ๊ค หรือโทรศัพท์
- เพื่อนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ทางช่องทางต่าง ๆ ของสภาวิชาชีพบัญชี เช่น เว็บไซต์วารสาร ไลน์ เฟซบุ๊ก
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อยกเว้นตามกฎหมาย
- ฐานสัญญา (Contract) เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อมายังสภาวิชาชีพบัญชีผ่านทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรือช่องทางอื่นใด สภาวิชาชีพบัญชีจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปประมวลผลเพื่อดำเนินการติดต่อ, เสนอบริการหรือเพื่อให้บริการตามสัญญาต่อไป
- ฐานความยินยอม (Consent) สภาวิชาชีพบัญชีอาจส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริการ ส่วนลด หรือข้อเสนอพิเศษ ที่ท่านอาจสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการกับท่านอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากท่านได้ตกลงที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากสภาวิชาชีพบัญชีแล้ว ท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยท่านสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ตามข้อที่ 7.
- ฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) สภาวิชาชีพบัญชีอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต (Vital Interest) สภาวิชาชีพบัญชีอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล
- ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation) สภาวิชาชีพบัญชีอาจประมวลผลเพื่อปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมาย กฎระเบียบ หรือคำสั่งผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
สภาวิชาชีพบัญชีจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอก ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้- เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ สภาวิชาชีพบัญชีอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก โดยสภาวิชาชีพบัญชีจะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
- สภาวิชาชีพบัญชีอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่หน่วยงานภายใน โดยจะเป็นการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
- กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย
- การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ
สภาวิชาชีพบัญชีจะไม่ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ - การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ทางสภาวิชาชีพบัญชีมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ดังนี้- สภาวิชาชีพบัญชีป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
- สภาวิชาชีพบัญชีจำกัดคนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้สำหรับพนักงาน ลูกจ้าง ที่จำเป็นต้องทราบข้อมูลนั้นเพื่อทำการประมวลผลข้อมูลให้โดยที่บุคคลเหล่านั้นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาอย่างเข้มงวด
- ในกรณีที่สภาวิชาชีพบัญชีว่าจ้างบริษัทอื่นๆ หรือบุคคลภายนอกเพื่อให้บริการในนามของสภาวิชาชีพบัญชี และมอบหมายให้บริษัทหรือบุคคลเหล่านั้นรับผิดชอบในการจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล สภาวิชาชีพบัญชีจะเลือกผู้รับเหมาช่วงที่เหมาะสมและกำหนดให้บริษัทหรือบุคคลดังกล่าวลงนามในข้อตกลงทั้งหมดที่จำเป็นเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิของเจ้าของข้อมูล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้ โดยสามารถแจ้งให้ทางสภาวิชาชีพบัญชีทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่าน แบบคำร้องขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Request Form) หรือผ่านทางอีเมล unsubscribe@tfac.or.th เพื่อแจ้งความประสงค์ดังกล่าว- ท่านมีสิทธิโต้แย้ง หรือ คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลสภาวิชาชีพบัญชีจะดำเนินการตามคำขอของท่านและจะไม่เก็บรวบรวม เปิดเผย ส่งต่อ หรือนำไปใช้ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไปการเพิกถอนความยินยอมนั้น อาจมีบางบริการที่สภาวิชาชีพบัญชีไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้หากปราศจากความยินยอมของท่าน ทั้งนี้สภาวิชาชีพบัญชีจะแจ้งให้ทราบถึงผลของการเพิกถอนความยินยอม ภายหลังจากที่สภาวิชาชีพบัญชีได้รับคำร้องขอเพิกถอน
- การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน โดยสภาวิชาชีพบัญชีจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ท่านภายในกำหนดระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่มีการส่งคำขอถึงสภาวิชาชีพบัญชี
- การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอให้สภาวิชาชีพบัญชีแก้ไขข้อผิดพลาดหรือข้อมูลที่ขาดหายในข้อมูลส่วนบุคคล
- ขอให้ระงับการใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- การลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถขอให้ดำเนินการลบ หรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- การขอให้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ตัวแทนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สภาวิชาชีพบัญชีจะใช้ในการดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลเท่านั้น โดยสภาวิชาชีพบัญชีจะเก็บรวบรวมจนกว่าการโต้แย้งหรือคำร้องดังกล่าวสิ้นสุดลง
- การถอนความยินยอม
ผู้ใช้บริการสามารถเพิกถอนความยินยอมแก่ สภาวิชาชีพบัญชีในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยแจ้งให้ สภาวิชาชีพบัญชีทราบผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง โดยการเพิกถอนคำยินยอมจะไม่ส่งผลต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้า - ติดต่อเรา
สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์
อาคารสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 133 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 0-2685-2500 โทรสาร 0-2685-2501 E-mail : tfac@tfac.or.th
วันและเวลาทำการ จันทร์ – ศุกร์ 09:00 – 17:00 น.
-
หมายเหตุ:
- การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางสภาวิชาชีพบัญชีอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยไม่แจ้งล่วงหน้า โดยประกาศบนเว็บไซต์พร้อมระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด โดยถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว ทางสภาวิชาชีพบัญชีจะไม่แจ้งการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านทราบเป็นรายบุคคล
- แนวปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
- อัปเดทข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565